หลายคนคงเคยเห็นภาพนักโทษที่ถูกล่ามโซ่ตรวน เป็นภาพที่เห็นกันจนชินตา เวลาไปไหนมาไหนก็จะลำบาก ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการจองจำผู้กระทำผิด แต่หากลองย้อนไปใสมัยโบราณนั้น การจองจำแบบนี้ยังไม่ค่อยมีให้เห็นกันมากนัก
หากลองย้อนไปในสมัยก่อน การจองจำหรือควบคุมนักโทษนั้น มีวิธีที่น่ากลัวกว่านี้มากนัก เนื่องด้วยต้องนำหวายมาร้อยบริเวณข้อเท้า ซึ่งที่เขาเรียกว่า เอ็นร้อยหวายนั้นเอง แต่ใครจะรู้ว่า สาเหตุที่เรียกว่า เอ็นร้อยหวายนั้น ก็มาจากเหตุนี้เอง
เอ็นร้อยหวายนั้น ที่มาของชื่อนี้ ก็มาจากการที่เขาจับเอานักโทษหรือเชลยในสมัยก่อน กวาดต้อนกลับไปเป็น แรงงานประเทศของตัวเอง ซึ่งบางครั้งมีจำนวนมาก จึงควบคุมด้วยการเจาะข้อเท้า ตรงเอ็นร้อยหวาย เพื่อเอาหวายไปสอดใส่ ร้อยเป็นเส้นต่อๆกันของนักโทษ
คำว่า เอ็นร้อยหวายคือ เอ็นของกล้ามเนื้อน่องที่ยึดกับส่วนบนกระดูกส้นเท้า. เมื่อกล้ามเนื้อน่องหดตัวจะดึงเอ็นนี้ทำให้ฝ่าเท้ากดลงและดันไปข้างหลัง ผลักให้เคลื่อนไหวไปข้างหน้าขณะเดินหรือวิ่ง เหตุที่เรียกเอ็นเส้นนี้ว่า "เอ็นร้อยหวาย" ก็เนื่องจากในสมัยโบราณ เมื่อจะนำนักโทษไปที่ใดจะใช้หวายร้อยเข้าตรงเอ็นนี้ เพื่อไม่ให้หนีไปได้ เหตุที่ร้อยเข้าบริเวณนี้ เพราะเป็นบริเวณที่ไม่มีเส้นเลือดใหญ่ จึงทำให้เลือดไม่ไหลออกมามาก
เพราะฉนั้นเหตุที่เรียกอย่างนี้เพราะ สมัยก่อนเวลาจะล่ามเชลยหรือนักโทษ จะล่ามตรงบริเวณเอ็นร้อยหวาย เพราะบริเวณนี้ ไม่มีเส้นเลือดใหญ่นั่นเอง