ปีศาจในดงดำ ภูตผีปีศาจที่แอบแฝงมาในรูปของสัตว์

     เชื่อกันว่าในป่าดงดิบยังมีภูตผีปีศาจอีกมากมาย ที่แอบแฝงมาในรูปของสัตว์ต่างๆ เช่น งูผี ค้างคาวผี เป็นต้น ถ้าเป็นงูใหญ่ที่สิงสู่อยู่ตามจอมปลวก โพรงไม้ หรือชายน้ำ ชาวบ้านก็มักจะนับถือว่าเป็นเจ้าพ่อ เป็นพญางูเจ้าที่ เลื่อมใสจนต้องบากบั่นไปขอหวยกันตามระเบียบ
งูผีที่เชื่อกันว่าติดตามอาฆาตคนที่ทำร้ายมัน หรือคู่ของมัน จนคอยติดตามจองล้างจองผลาญจนตายกันไปข้างหนึ่ง มักจะดุร้ายน่ากลัวแทบเหลือเชื่อ
ที่จันทบุรีก็มีข่าวว่าผู้หญิงชาวไร่โดนงูจงอางกัดมือ เคยใช้มีดฟันงูตาย ตัวเองก็ต้องตัดมือทิ้ง เพื่อป้องกันพิษงูแล่นเข้าหัวใจ ปรากฏว่ามีงูตัวเมียตายจองเวรแทบปางตาย
ต้องขโมยไข่ของมันวิ่งหนี ล่อให้ตาม งูร้ายนั่นก็ตามมาติดๆ จนต้องวิ่งกันหืดจับกว่าจะถึงหน้าบ้าน แล้วโยนไข่งูลงไปในกระทะต้มน้ำเดือดๆ งูใจเพชรก็พุ่งลงกระทะเพื่อตามไข่ของมัน...ตายคาน้ำร้อนน่ะซีครับ รายการนี้
แต่คนรอดตายก็แทบหัวใจวายเหมือนกันนะเอ้า!
จากงูมาถึงค้างคาวผี...
ว่ากันว่า ค้างคาวผีมักสิงสู่อยู่ในถ้ำ คล้ายๆ กับค้างคาวทั่วไป กลางวันห้อยหัวนอนเงียบ ตกเย็นค่ำถึงจะออกหากิน ค้างคาวธรรมดาก็กินผลไม้ แต่ค้างคาวผีน่ะคอยจ้องแต่จะกินเลือดมนุษย์ท่าเดียว
ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนค้างคาวผีของฝรั่ง ที่เรียกว่า "แวมไพร์" นั่นปะไร
ผิดแปลกกันตรงที่แวมไพร์นั้นเป็นผีดิบแปลงร่าง พอโฉบเข้าห้องนอนเหยื่อซึ่งมักจะเป็นสาวๆ สวยๆ หุ่นอวบอั๋นนอนหลับตาพริ้ม ก็กลับกลายเป็นผีดิบเชื้อสายแดร็กคิวล่า สะกดจิตให้สาวสวยลืมตาตื่นขึ้นมาจนได้
...เห็นชายร่างสูงในชุดเสื้อคลุมสีดำ หน้าซีดขาว นัยน์ตาคมวาวทรงอำนาจก็บังเกิดความเคลิบเคลิ้ม เดินเข้าหาอ้อมกอด ผีดิบก้มลงทำท่าจะจูบไซ้ต้นคอขาวระหง แต่ที่ไหนได้...กลับสยายเขี้ยวฝังฉับลงที่เส้นเลือดใหญ่ในบัดดล!
สาวเจ้าหวีดร้อง แต่ดิ้นไม่หลุด โดนดูดเลือดจนผีดิบอิ่มหนำสำราญ ก่อนจะกลายเป็นแวมไพร์ โบยบินออกไปทางหน้าต่างตามเดิม ปล่อยให้สาวเป็นลมล้มพับหมดสติคาที่
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นผีดิบเรียบร้อย ออกล่าเหยื่อเพื่อดูดเลือดต่อชีวิตตัวเองไม่มีวันสิ้นสุด
ผีดิบนี่กลัวไม้กางเขนพอๆ กับผีไทยกลัวพระ!
ผีดิบต้องใช้ไม้แหลมๆ ทะลวงอกถึงจะตายสนิท หรือโดนแสงแดดแผดเผาถึงจะร้องโหยหวน หมดพิษสง กลับกลายเป็นซากศพเละๆ หรือกองกระดูกป่นๆ แล้วแต่ว่าจะเพิ่งตายไม่นาน หรือตายมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว
คิดแล้วสู้ผีไทยไม่ได้ เพราะต่อให้เอาไม้เอาเหล็กแหลมไปแทงก็เหมือนแทงอากาศ เห็นแสงแดดก็หายตัวแวบไปแล้ว...ไม่มาทู่ซี้ปรากฏตัวจนโดนแดดเผาให้โง่หรอกน่า
ไฟก็ฆ่าผีไทยไม่ได้ บอกไม่เชื่อ!
ผีไทยหายตัวว่อบแว่บเหมือนเงา จะเอาไฟไปเผาได้ยังไง? มีวิธีเดียวเท่านั้น คือใช้อาคมเรียกวิญญาณใส่หม้อ ใช้ผ้ายันต์ปิดฝาเอาไปถ่วงน้ำเหมือนเรื่องแม่นาคพระโขนงนั่นปะไร
นอกจากงูผี ค้างคาวผี ก็ยังมีผีแปลกประหลาดอีกชนิดหนึ่ง ทั้งน่าเกลียดน่ากลัวน่าขยะแขยงชวนคลื่นไส้เบ็ดเสร็จ
คือ...ผีคนรู!!
ลำตัวเหมือนหนอนสีขาวเป็นปล้องๆ ลื่นมากเพราะเมือกเต็มตัว หน้าเหมือนคนแต่ไม่มีผม ไม่มีคิ้ว กลางวันอุบเงียบอยู่ในรู ตกกลางคืนก็เลื้อยคลานกระดืบๆ ออกมาล่าเหยื่อใช้ลำตัวรัดแล้วฝังเขี้ยวดูดเลือดจนพองเป่ง สัตว์หรือคนเคราะห์ร้ายที่ตกเป็นเหยื่อก็นอนตายแหงแก๋อยู่ป่านั่นเอง
คนที่เคยเจอะเจอผีคนรู แต่เผ่นหนีเอาตัวรอดมาได้ เล่าว่าเมือกลื่นๆ ตามลำตัวของมันทำให้ขนลุก แถมเหม็นเขียวเหม็นคาวอย่างบอกไม่ถูก...ยิ่งกว่าศพเน่าๆ ซะด้วยซ้ำไป!
นอกจากนั้นยังมีผีโป่งผีค่าง รูปร่างเหมือนลิงแต่ดุร้ายกว่า คอยจ้องจะฝังเขี้ยวดูดเลือดเหยื่อเหมือนกัน บางคนเรียกรวมๆ ว่า "ผีโป่งค่าง" ไปเลย คงจะเหมือนทั้งลิงทั้งค่างจนแยกไม่ออกก็เป็นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น