เรื่อง : สัญญาที่โรงพยาบาล


     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับเรา อยากจะเล่าพร้อมมีคำถามบางคำถามที่ยังคาใจ และหาคำตอบไม่ได้ค่ะ
เมื่อ 5 ปีก่อน สมัยที่เราขึ้นกรุงเทพมาเรียนมหาวิทยาลัย เราสุขภาพอ่อนแอมาก ป่วยแล้วป่วยอีก แอดมิดเข้าโรงพยาบาลต้นเดือนท้ายเดือน การเรียนก็ตก ร่างกายเหมือนรถที่เก่าๆ เดี๋ยวพังตรงนั้นที เดี๋ยวพังตรงนี้ที
เราไม่มีความรู้เรื่องโรงพยาบาลในกรุงเทพเลย จะไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ ก็คิวยาว เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในแหล่งธุรกิจ เราแอดมิดที่โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่เจอเหตุการณ์บางอย่าง จนทำให้เราไม่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้อีกเลย
ออกตัวก่อนว่าเราเป็นคนจิตแข็ง ไม่ค่อยกลัวผี ไม่ได้มีสัมผัสอะไร ไม่เคยเห็นสิ่งลี้ลับใดๆ แบบจะๆ ไม่ใช่คนชอบทำบุญกับวัด แต่นานๆ ทีจะได้ยินเสียงแปลกๆ บ้าง แต่คนที่กลัวจับใจคือรูมเมทของเรา แล้วเวลาที่ป่วย คนที่ไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลก็คือรูมเมทนี่แหละ
ครั้งนั้นเราทอนซิลอักเสบ ตัดสินใจไปโรงพยาบาลช่วงบ่ายๆ หมอให้แอดมิดเลยเพราะว่าไข้ขึ้น 40 องศา กลับหอไปก็ไม่มีใครดูแล ได้แต่นอนแบ็บอยู่บนเตียงเฉยๆ รูมเมทมาส่งเราแล้วกลับไปเรียนตอนเย็นต่อ ปล่อยให้เรานอนพักอยู่ในห้องคนเดียว เราเหมือนกับสะลึมสะลือแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่เห็นปลายเตียงมีผู้หญิงผมยาวประบ่าคนหนึ่งในชุดคนไข้ยืนอยู่ เธอตัวค่อนข้างเล็ก น่าจะสูงไม่เกิน 155 ซม. รูปร่างผอมแห้งเหมือนคนป่วยทั่วไป ผิวขาวซีดออกเหลือง เธอมองมาที่เรา หน้าไม่บึ้ง ไม่ยิ้ม
“เตียงนี้เป็นเตียงของฉัน แต่รู้ว่าเธอป่วย ไม่ได้จะมาทวงเตียงหรอก” เธอพูดเรียบๆ อาจเป็นเพราะประโยคนี้ฟังดูแปลกๆ เราจึงจำได้ดีขึ้นใจ เธอเห็นเราเงียบไปจึงพูดต่อว่า “ขออะไรสักอย่างได้ไหม ขอตาหน่อย”
“ไม่ได้” ถึงจะสะลึมสะลือแต่เราตอบกลับเธอแทบจะในทันที ใจตอนนั้นคิดแต่ว่าเรายกตาให้ใครไม่ได้ ถ้ายกให้แล้วจะเอาอะไรใช้ล่ะ “ต้องใช้ตาตอนนี้ ให้ไม่ได้จริงๆ อย่างอื่นได้ไหม” ขนาดป่วยและไม่มีสติดีเท่าไร เราก็ยังจะต่อรองก็เธอจนได้
เธอเหมือนลังเลไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ขอเป็นเลือด”
เราตอบตกลงไปอย่างไม่ได้คิดอะไร ตั้งใจไว้ว่าถ้าหายดีเมื่อไรจะไปบริจาคเลือดให้กับเธอ เพราะสมัยเรียนม.ปลาย เราก็ไปบริจาคเลือดอยู่บ่อยๆ
เธอหายไป พร้อมกับความฝันแปลกๆ ในคืนนั้นของเรา เราฝันว่าเราเป็นคนป่วยธาลัสซีเมียที่ต้องได้รับการถ่ายเลือด แต่หาเลือดได้ยากลำบากมาก ร่างกายก็ทรุดโทรมไปเรื่อยๆ จนเสียชีวิตในที่สุด
เราตื่นมาก็ไม่กล้าเล่าสิ่งที่เจอกับสิ่งที่ฝันให้รูมเมทที่มาเฝ้าไข้ฟัง เพราะกลัวว่าเธอจะงอแง กลัวผี แล้วหนีกลับไปไม่ยอมอยู่ต่อ แต่สุดท้ายก็มีเรื่องแปลกๆ ที่ทำให้เราต้องเล่าอยู่ดี
คืนก่อนวันที่เราจะออกจากโรงพยาบาล ช่วงเวลาประมาณตี 3 – ตี 4 เรางัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียง รูมเมทเรานอนอยู่ตรงโซฟาข้างๆ
ผู้ชายคนหนึ่งผมสกินเฮด เหมือนกับศรีษะล้าน ใส่แว่นกรอบทรงกลม ใส่เสื้อเหมือนเสื้อบุรุษพยาบาลหรือไม่ก็เทคนิคการแพทย์ เขามาเจาะเลือดเราไปสองเข็มใหญ่ๆ เราที่กำลังง่วงก็ไม่รู้ว่าอะไรยังไง พอหลับไปตื่นมาอีกที ที่แขนก็มีรอยเข็มฉีดยา แต่ไม่มีพลาสเตอร์แปะห้ามเลือดเหมือนเวลาที่เจาะเลือดตามปรกติ เรางงๆ มึนๆ ว่าตกลงแล้วยังไงกันแน่
เราถามพยาบาลที่เข้ามาวัดไข้ตอนเช้าว่ามีใครเข้ามาเจาะเลือดหรือ พยาบาลบอกว่าไม่มีอะไร คุณหมอไม่ได้สั่งเจาะเลือด เช็คเลือดอะไร พอเราถามถึงบุรุษพยาบาลตามที่เราเห็น เขาก็บอกแต่ว่าไม่มีคนลักษณะแบบนั้น ไม่เห็นคนลักษณะแบบนั้นเลยด้วย
พอเราเล่าเรื่องนี้ให้รูมเมทฟัง ตอนแรกไม่ได้เล่าเรื่องที่มีผู้หญิงมาขอเลือด รูมเมทเราตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่พอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น…รูมเมทบอกว่าน่ากลัว แต่ก็ลืมเรื่องนี้ไป
จนวันนี้ที่มีเพื่อนพูดชื่อโรงพยาบาลนี้ขึ้นมา เราก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ และเล่าให้เพื่อนคนนั้นฟังอีกครั้ง คราวนี้รูมเมทฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เธอย้อนถามเราว่า
"แน่ใจเหรอว่าคนที่มาเจาะเอาเลือดเธอไปนั้นเป็นคน"
เราไม่รู้คำตอบนั้นเลยจริงๆ แต่ที่แน่ๆ ในวงนั้นทุกคนขนลุกอย่างประหลาด เมื่อเราบอกว่ามีคนมาเจาะเอาเลือดเราไปสองหลอดใหญ่ๆ
ส่วนเรื่องคำสัญญา ตลอด 5 ปีมานี้ เราไม่เคยมีโอกาสทำให้เธอสักครั้ง เพราะไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดกี่ครั้งก็เลือดลอย นอนไม่พอ โปรตีนไม่พอ บริจาคไม่ได้
ไม่รู้ว่าเลือดที่เจาะไปนั้นนับไหมว่าให้เลือดเธอไปแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจไหมว่าเราบริจาคเลือดให้เธอตามสัญญาไม่ได้
แต่ที่น่าแปลกใจคือ เธอไม่เคยทวงสัญญาสักครั้ง
และตอนนี้ เราก็ไม่ได้ไปเหยียบโรงพยาบาลนั้นอีกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น